. -->
ลิ๊งค์สัญญาณจาก www.sator4u.com ไม่สามารถฟังได้ให้download windowmedia plugin นะคร๊าบบ -:-by Artio-:-


         

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Facebook บน iPhone ดูวิดีโอได้แล้ว!!!

ไอโฟนแอพฯ (iPhone App) ยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊ค (Facebook) ถูกตั้งคำถามจากนักออกแบบแอพฯ ชื่อก้องอย่าง Joe Hewitt ว่า ทำไมถึงไม่ทำให้สามารถชมวิดีโอของเฟซบุ๊คจากในแอพฯได้เลย ซึ่งการขาดคุณสมบัติดังกล่าวสร้างความรู้สึกผิดหวังให้กับผู้ใช้อย่างมากที เดียว
พื้นที่โฆษณา
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613

แต่ดูเหมือนประเด็นดังกล่าวจะ ได้รับการปรับปรุงอย่างเงียบๆ ไปเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใช้ Facebook บน iPhone วันนี้จะสามารถรับชมวิดีโอที่เยี่ยมยอดจากในแอพฯได้ ซึ่งการซุ่มอัพเดตแอพฯของเฟซบุ๊คเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากจะมีการแก้ไขบั๊กเล็กๆ น้อยๆ แล้ว มันยังมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานครั้งใหญ่ด้วยนั่นคือ การเล่นวิดีโอทีแต่เดิมจะดูได้เฉพาะคลิปในยูทูบเท่านั้น ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีผู้ชมวิดีโอที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊คเฉลีย 2 พันล้านครั้งต่อเดือนเที่ยบแล้วเท่ากับจำนวนครั้งการรับชมวิดีโอในยูทูบ (YouTube) ต่อวัน

สำหรับบริการชมวิดีโอในเฟซบุ๊ก จะรวมอยู่ในเมนู dropdown ของตัวเลือก Newsfeed ซึ่งจะสามารถแสดงวิดีโอที่อัพโหลดจากเพื่อนๆ ของคุณทั้งหมดที่อยู่ในคอนแท็คส์ ลองใช้ดูนะครับ รับรอบจะติดใจ

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ยูทูบเพิ่มบริการ"ตัดต่อวิดีโอ"บนเว็บ

รายงานข่าวเช้านี้ ยูทูบ (YouTube) ได้เพิ่มคุณสมบัติการทำงานใหม่ให้กับสมาชิกเว็บไซต์ฯ ด้วยการให้บริการตัดต่อวิดีโอ (video editor) จากในเว็บไซต์ยูทูบได้เลย ซึ่งมันเป็นคุณสมบัติการทำงานที่ผู้ใช้รอคอยมาหลายปีแล้ว การพัฒนาคุณสบัติการทำงานดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นอีกก้าวของผู้นำในบริการ ตัวจริง
Rushabh Doshi และ Josh Siegel วิศวกร และผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของยูทูบ ทั้งสองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริการ video editor โดยพวกเขาเปิดเผยเกี่ยวกับบริการใหม่นี้ว่า โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนยูทูบพัฒนาโดยใช้ JavaScript แม้จะมีรูปแบบที่เรียบง่าย แต่มันสามารถให้บริการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี ผู้ใช้สามารถตัดแยกส่วนของวิดีโอที่เจ้าตัวอัพโหลดขึ้นไป เพื่อนำมันมาจัด เรียงลำดับต่อกันใหม่ และสามารถเลือกเพลงใส่เข้าไปในวิดีโอจากไลบรารี่ของยูทูบที่มีอยู่ 40,000 กว่าเพลงที่ผ่านการตรวจสอบแล้วได้อีกด้วย (ระบบนยังไม่เปิดให้อัพโหลดไฟล์เสียงเข้าไปได้เอง แต่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้ทำได้)

Siegel กล่าวว่า แก่นของแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังของ video editor ก็คือ การทำให้ผู้ใช้ได้ใช้คุณสมบัติพื้นฐานในการตัดต่อที่จำเป็นผ่านระบบ cloud computing โดยมุ่งเน้นให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกที่สุดแม้จะเป็นการทำงานจาก ในบราวเซอร์ก็ตาม ส่วน Doshi ก็ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ต้องการรักษาอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย และให้มันเบาที่สุด เพื่อให้ระบบการทำงานทั้งหมดไปอยู่ที่กระบวนการประมวลผลวิดีโอ ซึ่งทำงานอยู่บนระบบโครงสร้างพื้นฐานของกูเกิ้ล และด้วยความที่มันเป็นระบบที่ใช้งานง่าย ทำให้มันสามารถรันบนคอมพิวเตอร์ระดับกลางที่มีพลังประมวลผลไม่สูงนักได้ แม้กระทั่งการแก้ไขคลิปวิดีโอไฮเดฟฯสั้นๆ เนื่องจากการประมวลผลส่วนใหญ่จะทำบนระบบ cloud ของกูเกิ้ล ไม่ได้อยู่บนเครื่องขอผู้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากซอฟต์แวร์ตัดต่อไฮเอ็นด์ที่พึ่งพิงพลังประมวลผลจาก คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เป็นหลัก นอกจากความสามารถในการตัดต่อและใส่เสียงจากไลบรารีของยูทูบเข้าไปได้แล้ว ทั้งคู่ยังมีเตรียมที่จะเพิ่มคุณสมบัติการทำงานใหม่ๆ เข้าไปด้วยอย่างเช่น ทรานสิชั่น (รูปแบบการเปลี่ยนผ่านในแต่ละคลิปย่อยที่ตัด) เอฟเฟกต์ ไตเติ้ล และการแยกแทรคเสียงในการตัดต่อด้วย สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าไป ทดลองใช้งานได้ที่ http://www.youtube.com/editor

MS เผยเทคโนโลยี 3D แบบไม่ใช้แว่นตา

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เทคโนโลยีสามมิติ (3D Technology) เกิดมานานกว่า 50 ปีแล้ว ล่าสุดผลของความสำเร็จของภาพยนต์ Avatar ในแบบฉบับ 3D ที่ทำตัวเลขรายได้ถล่มทลาย ขณะเดียวกันทีวีอีกอย่างน้อย 2 ช่องในสหรัฐฯ กำลังเตรียมออกอากาศในรูปแบบสามมิติด้วย ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากจอภาพยนต์ และทีวีแล้ว มือถือตลอดจนอุปกรณ์โมบายต่างๆ ก็จะสามารถรองรับคอนเท็นต์ 3D ได้เหมือนกันแต่สิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นในระบบ 3D ก็คือ อุปกรณ์เสริมที่ผู้ใช้ต้องสวมใส่ นั่นก็คือ แว่นตาสามมิติ ซึ่งแม้จะดีไซน์อย่างไร ผู้ใช้ก็ยังรู้สึกไม่สะดวกนักสำหรับการรับชม ล่าสุดนักวิจัยของไมโครซอฟท์ได้พัฒนาเลนส์แบบใหม่ที่สามารถแสดงภาพสามมิติ ได้ดีกว่าเดิม แถมยังไม่ต้องใส่แว่นตาอีกด้วย

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Technology Review ได้เปิดเผยต้นแบบจอแสดงผล 3D รูปแบบใหม่ ซึ่งจะมีกล้องที่สามารถติดตามสายตาของผู้ชม โดยทำงานร่วมกับเลนส์ทีมีความบางมากๆ ทำหน้าที่ปรับทิศทางของแสงที่เข้าไปยังสายตาของผู้ชมด้วยการเปิดปิด LED ที่เรียงตัวอยู่ด้านล่างของขอบเลนส์อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์คือ ตาซ้าย และตาขวาของผู้ชมจะเห็นภาพที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดภาพ่ลวงตาสามมิติขึ้นมา

การ ทำงานของระบบดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งภาพที่แตกต่างให้เห็นโดยตาแต่ละข้าง เท่านั้น แต่ในทางเทคนิคมันยังส่งภาพที่แตกต่างกันไปให้ผู้ชมคนอื่นๆ ที่อยู่หน้าจอในเวลาเดียวกันด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ชมแต่ละคนยังสามารถเห็นชิ้นโฆษณาทีไม่เหมือนกันได้อีกด้วย หรือแม้แต่การที่ผู้ชมสามารถรับชมทีวีเครื่องเดียวกัน แต่ดูคนละรายการได้นั่นเอง เนื่องจากทีวีเป็นกิจกรรมของสังคม และคนส่วนใหญ่ก็อยากที่จะมีโอกาสได้นั่งดูทีวีร่วมกัน แต่ปัญหาคือ ความสนใจทีมีต่อรายการที่รับชมแตกต่างกัน ด้วยเทคนิคนี้จะทำให้ผู้ชมทีวีในบ้านได้มีโอกาสมานั่งดูทีวีร่วมกันอีกครัง ชม คลิปสาธิตการทำงานที่นี่

ข้อมูลจาก: Technology Review

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

N8 ของจริงยังไม่เห็นคลิป N9 โผล่แล้ว?

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นานๆ จะเห็นโนเกีย (Nokia) ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างกระแสความต้องการของสินค้า โดยเฉพาะ N8 ทีมีการออกมาทำคลิปนำเสนอคุณสมบัติการทำงานของมัน เพื่อให้ผู้ใช้ได้หันกลับมามองสมาร์ทโฟนจากบริษัทผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่ง ของโลกที่ต้องเสียรังวัดไปให้กับไอโฟน (iPhone) และสมาร์ทโฟนของค่ายอื่นๆ ไปมิใช่น้อย


ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอ ชุดใหม่ที่อ้างว่า เป็นคลิปโฆษณาของ Nokia N9 ซึ่งนอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo มันยังได้รับการออกแบบให้มาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY ที่สามารถเลื่อนออกมาจากด้านข้าง ดูน่าเชื่อพอสมควร แม้โฆษณาทีทำออกมาดูไม่ค่อยเนี่ยนมากนัก แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ คิดว่า โฆษณาชุดนี้ใช่ของจริง หรือเปล่า?

กล้องจิ๋วบันทึกวิดีโอใต้น้ำลึกถึง 20 เมตร

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ช่วงเย็นๆ อย่างนี้ ทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip ก็มีเรื่องราวแก็ดเจ็ต (Gadget) เบาๆ มานำเสนอกันเป็นประจำ ผ่อนคลายจากข่าวสารหนักๆ มาทั้งวันแล้ว สำหรับใครที่ชอบเที่ยวทะเล แล้วอยากจะบันทึกภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอใต้น้ำไว้เป็นที่ระลึก แต่ไม่อยากลงทุนสูงเกินไป และไม่ต้องการขนสัมภาระมากมาย แก็ดเจ็ตชิ้นนี้อาจจะเหมาะกับคุณ


Waterproof Chobi Camera กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่มาพร้อมกับ housing กันน้ำ สามารถนำมันดำดิ่งลงไปใต้น้ำได้ลึกถึง 20 เมตร เพื่อบันทึกภาพนิ่งที่ความละเอียด 1280 x 960 พิกเซล และวิดีโอ 680 x 480 ที่อัตราเฟรม 30fps ได้อย่างสบายๆ ด้วยขนาดเล็กเท่ากล่องไม้ขีด ทำให้คุณสามารถพกพากล้องจิ๋วนี้ไปได้ทุกที่อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงเกินไปอีกด้วย โดยจะมีราคาอยู่ที่ 18,800 เยน (ประมาณ 6,700 บาท) มีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือดำกับเทา เห็นอย่างนี้ ชักอยากไปเที่ยวทะเลเสียแล้วสิ ยิ่งถ้ามีเจ้านี้ไปด้วย คงสนุกเหมือนกันเวลาได้บันทึกภาพ และวิดีโอใต้น้ำลึก

RIM ซุ่มทำ BlackBerry Tablet ออกปีนี้?

แหล่งข่าวอ้างว่า แท็บเล็ตแบล็คเบอรี่กำลังอยู่ในระหว่างการเริ่มต้นพัฒนา และทดสอบการทำงาน โดยจะสามารถทำงานร่วมกับแบล็คเบอรี่โฟนได้ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boy Genius ก็ได้รายงานว่า แท็บเล็ตแบล็คเบอรี่จะมีขนาดของหน้าจอประมาณ 8.9 นิ้ว และมาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth

หลังจากแอปเปิ้ล (Apple) แนะนำไอแพด (iPad) ในเดือนเมษายน เหล่าบรรดาผู้ผลิตพีซี และสมาร์ทโฟนต่างก็ออกมาประกาศพร้อมกันว่า พวกเขากำลังพัฒนาแท็บเล็ตของตนเองด้วยเหมือนกัน ซึ่งผ่านไปไม่ถึง 60 วัน แอปเปิ้ลก็ออกมาประกาศความสำเร็จของยอดขายไอแพดที่ทะลุ 2 ล้านเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อต้นเดือนนี้เอง Dell ก็ได้ออกมาประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตที่ชื่อว่า Streak ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว และทำงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิ้ล (Google) สำหรับ Streak จะมาพร้อมกับซิมการ์ดด้วย ทำให้มันโทรออกรับสายได้ (Tablet Smartphone hybrid) ตัวสินค้าคาดว่าจะเริ่มวางตลาดในสหรัฐเดือนหน้าที่ราคา 500 เหรียญฯ (ประมาณ 18,500 บาท) ส่วนทางด้าน HP ก็ยังอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมสำหรับแท็บเล็ตที่ชื่อว่า HP Slate

ทางด้าน RIM หวังว่าจะสามารถเปิดตัวแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนแบล็คเบอรี่ได้ภาย ในปี 2010 ซึ่งแท็บเล็ตของ RIM อาจจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะจะช่วยยกระดับของสมาร์ทโฟนแบล็คเบอรี่ให้มีจุดเด่นมากกว่าสมาร์ทโฟนของ ผู้ผลิตรายอื่น โดยหลังจาก RIM เปิดตัว BlackBerry Storm ทางบริษัทก็ไม่ได้ออกสมาร์ทโฟนรุ่นที่มาพร้อมกับจอสัมผัสอีกเลย แท็บเล็บของ RIM จะช่วยเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างมือถือที่มีคีย์บอร์ดกับการเติบโตที่ รวดเร็วของอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสได้อย่างลงตัว

"วิ ดีโอคอลล์"ระดับไฮเดฟฯมาแล้ว!!!



เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทลอจิเทค (Logitech) ได้ประกาศอัพเดตบริการเรียกสายระบบวิดีโอ (video calling service) ที่เปิดให้ใช้ฟรี โดยได้มีการพัฒนาให้บริการดังกล่าว สามารถเรียกสายหากันผ่านวิดีโอในระดับไฮเดฟฯ (High-definition) ได้แล้ว

Logitec Vid HD บริการล่าสุดที่ลอจิเทคเปิดให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการเรียกสายผ่านระบบวิดีโอ ที่ความละเอียด 720p ด้วยเว็บแคมไฮเดฟฯ (HD webcam) ซึ่งพร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้ประกาศปิดตัวเว็บแคมไฮเดฟฯรุ่นใหม่ ไปด้วยพร้อมกัน โดยเว็บแคมไฮเดฟฯ ที่ออกมาจะมีรุ่นและราคาให้เลือกตั้งแต่ 40 - 100 เหรียญฯ (1,400 - 3,400 บาท) แถมยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Google TV ที่สามารถให้บริการวิดีโอคอลล์ระดับไฮเดฟฯ บน HDTV ของผู้ใช้อีกด้วย

ซอฟต์แวร์ Logitech Vid HD สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่ www.logitech.com/vid สำหรับ ผู้ที่ต้องการใช้บริการวิดีโอคอลล์แบบไฮเดฟฯจะต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีใข้ซี พียู Core 2 Duo ความเร็วขั้นต่ำ 2.4GHz ระบบปฎิบัติการ Windows OS (xp/Vista/7) หรือ Mac OS (10.4 ขึ้นไป) เว็บแคมไฮเดฟฯ ของเจ้าใดก็ได้ (แต่ลอจิเทคจะเวิร์กที่สุด) และอินเตอร์เน็ตที่ความเร็วอย่างน้อย 1Mbit/s ทั้งอัพโหลด และดาวน์โหลด ในส่วนของเว็บแคมไฮเดฟฯ ทางลอจิเทคมีตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยคือ Logitech HD Pro Webcam C910 ที่สามารถจับภาพวิดีโอไฮเดฟฯได้สูงสุดถึง 1080p (แม้บริการวิดีโอคอลล์จะจำกัดไว้ที 720p) โดยเลนส์ทีใช้เป็น Carl Zeiss มาพร้อมกับไมค์ 2 ตัว เพื่อให้ระบบเสียงสเตอริโอ (พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน) สนนราคาอยู่ที่ 99.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 3,400 บาท ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็จะมีคุณสมบัติการทำงาน และราคาลดหลั่นลงไป โดยทุกรุ่นจะวางตลาดในช่วงปลายเดือนนี้